ความพิเศษ ของท่อเหล็กแปซิฟิกไพพ์
ปัจจุบัน ท่อเหล็ก มีมากมายหลายขนาดที่ถูกนำมาวางขายกันเกลื่อนตามท้องตลาด ทว่ารูปลักษณ์ของท่อเหล็กเหล่านี้ต่างเหมือนกันไปเสียหมด ซึ่งสร้างความสับสนอย่างมากให้กับผู้บริโภคอุปโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเหล็ก แน่นอนว่าการเลือกซื้อเหล็กสักแบรนด์ คงเป็นเรื่องที่ต้องไตร่ตรองให้อย่างถ้วนถี่ เนื่องจากเหล็กเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างสิ่งปลูกสร้างอาคารสถาปัตยกรรมต่าง ๆ บ้านจะมีโครงสร้างดีหรือไม่นั้นสิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับโครงสร้างเหล็กเป็นองค์ประกอบใหญ่เลยทีเดียว
แน่นอนว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้จะต้องมองหาเหล็กที่มีคุณภาพผ่านมาตรฐานและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมาเป็นอันดับแรก และแปซิฟิกไพพ์เป็นผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมเหล็กมาอย่างยาวนาน ท่อเหล็กของแปซิฟิกไพพ์ไม่เพียงแต่ผ่านมาตรฐานการรับรองจากนานาประเทศ เหล็กทุกชิ้นของแปซิฟิกไพพ์ยังคัดสรรคุณภาพ และมีประสิทธิภาพในการทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดีอีกด้วย ด้วยเหตุนี้แปซิฟิกไพพ์จึงได้รับเลือกเป็นลำดับต้น ๆ ในอุตสาหกรรมเหล็ก
ด้วยเหตุนี้เองแปซิฟิกไพพ์จึงสามารถผลิตท่อเหล็กให้มีคุณภาพดีเยี่ยม โดยจะต้องทดสอบคุณภาพเหล็กก่อนนำส่งออกสู่ตลาดเหล็กทุกครั้ง อีกทั้งยังมีห้องปฏิบัติการทดสอบ และระบบการบริหารงานที่ได้รับมาตรฐานของ ISO 17025 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีทั้งหมด 3 เครื่องทดสอบ สามารถจำแนกได้ ดังต่อไปนี้
1. การทดสอบแรงดึง (Tensile Test)
การทดสอบแรงดึง (Tensile Test) เป็นการทดสอบเพื่อตรวจวัดคุณสมบัติความต้านของวัสดุต่อแรงที่มากระทำ ซึ่งตัวอย่างที่แปซิฟิกไพพ์ได้นำมาทดสอบนั้นจะมีรูปร่าง และขนาดแตกต่างกันผ่านการนำตัวอย่างมาดึงอย่างช้า ๆ ให้แรงกระทำอย่างต่อเนื่องจนตัวอย่างขาด ผลลัพธ์ที่แปซิฟิกไพพ์ได้เป็นข้อมูลของกราฟระหว่างความเค้นและความเครียดทางวิศวกรรม โดยสามารถนำไปประเมินในงานท่อเหล็กงานด้านต่าง ๆ ได้อีกด้วย
2. การทดสอบและวิเคราะห์ส่วนประกอบทางเคมี (Chemical Composition Analysis)
ในการทดสอบและวิเคราะห์ส่วนประกอบทางเคมี (Chemical Composition Analysis) ของแปซิฟิกไพพ์เป็นการทดสอบเพื่อหาปริมาณธาตุองค์ประกอบของวัสดุโลหะท่อเหล็ก หรือโลหะผสมต่าง ๆ ซึ่งตัวอย่างที่ใช้ควรมีสภาพนำไฟฟ้าได้ โดยจะทำการทดสอบวัดปริมาณของแสงที่ปล่อยออกมา หลังจากตัวทดสอบถูกกระตุ้นด้วยประจุไฟฟ้าผ่านหลักการอาร์ก หรือการสปาร์ก ผลการวิเคราะห์ที่ได้ยังสามารถนำมาเปรียบเทียบหาค่าธาตุได้อีกด้วย
3. การทดสอบคุณสมบัติแรงกระแทก (Impact Test)
การทดสอบคุณสมบัติแรงกระแทก (Impact Test) ของแปซิฟิกไพพ์เป็นการทดสอบเพื่อศึกษาความสามารถต่อการรับแรงกระแทกของทวัสดุท่อเหล็ก เพื่อให้ทราบถึงความเหนียว หรือความสามารถของวัสดุที่สามารถดูดซับพลังงานไว้โดยไม่ให้เกิดการแตกหักซึ่งสามารถนำท่อเหล็กไปใช้ได้ในสภาวะอุณหภูมิต่ำจึงทำให้สามารถเลือกวัสดุท่อเหล็กที่เหมาะสมต่อการใช้งานได้อีกด้วย
ลักษณะการทดสอบคุณสมบัติแรงกระแทก (Impact Test) จำเป็นอย่างยิ่งในการใช้เครื่อง Impact Tester หรือเครื่องทดสอบแรงกระแทก ซึ่งสามารถทดสอบด้วยวิธีการ Charpy Test โดยจะต้องวางชิ้นทดสอบไว้ในแนวระดับจากนั้นให้ลูกตุ้มตกเพื่อกระแทกกับด้านตรงข้ามของรอยบากบนวัสดุ
ลักษณะการทดสอบคุณสมบัติแรงกระแทก (Impact Test) จำเป็นอย่างยิ่งในการใช้เครื่อง Impact Tester หรือเครื่องทดสอบแรงกระแทก ซึ่งสามารถทดสอบด้วยวิธีการ Charpy Test โดยจะต้องวางชิ้นทดสอบไว้ในแนวระดับจากนั้นให้ลูกตุ้มตกเพื่อกระแทกกับด้านตรงข้ามของรอยบากบนวัสดุ
ความพิเศษของห้องปฏิบัติการทดสอบ ISO 17025 จาก สมอ. ของแปซิฟิกไพพ์สามารถเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า แปซิฟิกไพพ์ มีกระบวนการดำเนินงาน และสามารถติดตามผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมไทย