มาตรฐาน ISO สำคัญแค่ไหนในอุตสาหกรรมเหล็ก
มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรม เกิดขึ้นมากมายหลายมาตรฐาน ประเทศผู้ผลิตเหล็กจะผลิตเหล็กโดยมีมาตรฐานเป็นของตนเอง เพื่อให้ประเทศที่มีการจัดการอุตสาหกรรมแบบเดียวกันยอมรับและนำเหล็กที่ผลิตภายในประเทศนั้นๆไปใช้งาน
บริษัทผู้ผลิตเหล็ก ทำการผลิตเหล็กออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดหลากหลายรูปแบบ แต่ละบริษัทจึงจำเป็นต้องผลิตเหล็กให้มีคุณภาพตรงกับความต้องการ ตามประเภทการใช้งานโดยมีการกำหนดชนิดและปริมาณส่วนผสมที่รวมอยู่ในเหล็กนั้นๆจึงทำให้เกิด “มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรม” ขึ้นมา
โดยมาตรฐานเหล็กตามระบบที่นิยมใช้กัน เป็นมาตรฐานสากลมี 3 ระบบ คือ
1. ระบบอเมริกา นิยมใช้กัน 2 มาตรฐานคือ
- AISI (American Iron and Steel Institute)
- SAE (Society of Automotive Engineer)
2. ระบบเยอรมัน เรียกว่า DIN (Deutsch Institute Norms)
3. ระบบญี่ปุ่น เรียกว่า JIS ( Japanese Industrial Standards)
นอกจากมาตรฐานเหล็กที่กล่าวมาแล้ว ISO ก็เป็นอีกหนึ่งมาตรฐานที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเหล็ก โดย ISO นั้นเป็นมาตรฐานเฉพาะในการตรวจวัดและควบคุมคุณภาพให้เป็นไปตามหลักสากล สำหรับกำหนดคุณภาพสินค้าและบริการของธุรกิจและอุตสาหกรรม
ISO ย่อมากจาก International Organization for Standardization เป็นองค์การระหว่างประเทศที่ออกมาตรฐานต่างๆ ในระดับสากล ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพของสินค้าและบริการ
มาตรฐาน ISO ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับหลากหลายธุรกิจและองค์กร ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถใช้การตรวจสอบด้วยมาตรฐานเดียวกันได้ มาตรฐาน ISO แบ่งออกเป็นระบบคุณภาพ เพื่อควบคุมเรื่องการผลิตและบริการ และระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ในอุตสาหกรรมเหล็ก มาตรฐาน ISO มีความสำคัญในด้านการสร้างความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพของสินค้า โดยจะเป็นตัวรับรองว่าสินค้าได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและการใช้งานตามมาตรฐานสากล
เหล็กของ Pacific Pipe ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ISO 9001 มาตรฐานห้องปฏิบัติการทดสอบ ISO 17025 และมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ให้คุณมั่นใจได้ว่า เหล็กจะมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถนำไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย