แปซิฟิกไพพ์ฉลองครบรอบ 50 ปี มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืนในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหล็ก ปรับโครงสร้างเสริมทีมการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ผนึกพันธมิตรกระตุ้นอุตสาหกรรมเหล็ก


แปซิฟิกไพพ์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหล็กฉลองครบรอบ 50 ปี มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน เสริมทัพทีมการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ผนึกพันธมิตรกระตุ้นอุตสาหกรรมเหล็ก พร้อมบูรณาการครบทุกมิติด้าน ESG เข้ากับกระบวนการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการมีผลประกอบการทางการเงินที่ดี ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้วยการได้รับคัดเลือกให้อยู่ในทำเนียบ ESG100 ประจำปี 2565 

นางเอื้อมพร ปัญญาใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปี เตรียมก้าวสู่ปีที่ 51 แปซิฟิกไพพ์ในฐานะ ‘ผู้นำในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายท่อเหล็ก’ มุ่งสร้างการรับรู้และจดจำแก่ตลาดในฐานะ ‘ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหล็ก’ ด้วยนโยบายมุ่งมั่นสร้างสรรค์ทำเรื่องใหม่ๆ ให้กับ ‘เหล็ก’ จากที่เคยเป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริง นำเทคโนโลยีและการจัดการที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ทั้งยังพัฒนาระบบการให้บริการอย่างสม่ำเสมอ เนรมิตทุกงาน ให้เป็นจริงตามจินตนาการ มอบประสบการณ์และมาตรฐานใหม่แก่อุตสาหกรรม เพื่อบรรลุความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า-คู่ค้า ตอบโจทย์อุตสาหกรรมในปัจจุบันที่ต้องการผลิตภัณฑ์เข้ามาช่วยประหยัดเวลาทำงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับคุณภาพสินค้าด้วยมาตรฐานสากล จากหลากหลายสถาบัน 

ตั้งทีมการตลาดหนุนธุรกิจ
          ตามแผนการเติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทยอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างและกลยุทธ์การตลาดใหม่ จากเดิมอุตสาหกรรมเหล็กถูกกำหนดโดยซัพพลายเออร์ (SUPPLY CHAIN DRIVE) ผู้ซื้อไม่ได้เห็นคุณภาพเหล็กที่แท้จริง สู่การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยห่วงโซ่คุณค่า (VALUE CHAIN DRIVE) วางโครงสร้าง กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ และจัดเซ็กเมนต์ลูกค้า จับคู่ระหว่างสินค้ากับลูกค้า 
          นางเอื้อมพร กล่าวว่า บริษัทฯ ปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจ 2 ด้าน คือ 1. การบริหารจัดการต้นทุนนำเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนี้เข้ามาประยุกต์ใช้มากขึ้น 2. สร้างทีมภายในจากพนักงานทุกคน ให้เป็น Learning Organization พร้อมทั้งตั้งทีมการตลาดเพื่อสนับสนุนธุรกิจลูกค้าและคู่ค้าแทนการซื้อมาขายไปผ่านร้านค้าปลีกเช่นเดิม และนำเสนอแพ็คเกจแบบ Total Solutions บริการแปรรูปเหล็กครบวงจร สามารถนำไปติดตั้งที่หน้างานได้ทันที ลดค่าแรง ลดเวลาในการก่อสร้าง ทั้งยังไม่ก่อมลภาวะให้กระทบต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบ สร้างความรับรู้แก่ผู้บริโภค "เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องเบอร์ 5 ท่อเหล็กต้องแปซิฟิกไพพ์เท่านั้น”

สร้างเครือข่ายขยายการเติบโต
          ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งสร้างเครือข่ายและความร่วมมือกับบุคคลทั้งภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งจะนำไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจและความผูกพันธ์ซึ่งกันและกัน โดยมีแผนความร่วมมือจะผนึกกำลัง จากหลากหลายกลุ่ม เช่น สถาบันการศึกษา สภาวิชาชีพต่างๆ เพื่อร่วมผลักดันอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีอนาคต มีโอกาสเติบโตจากพื้นฐานของประเทศที่ยังคงมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อีกมาก มีขนาดการบริโภคเหล็กประมาณ 20 ล้านตัน/ปี ร่วมทั้งมีอัตราการเติบโตปีละ 4 - 5% นับเป็นอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะทำเพียงลำพัง
          นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมเพิ่มศักยภาพในกระบวนการผลิตให้ทันสมัย มีระบบการจัดการ ที่ชัดเจน รวมทั้งการตรวจสอบ การติดตามเพื่อขยายวงสินค้าหรือช่องทางการจำหน่า และเดินหน้าฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ยกระดับความสามารถให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนตอกย้ำการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเหล็ก
 
นำดิจิทัลเสริมแกร่ง
          นางเอื้อมพร กล่าวด้วยว่า บริษัทฯ เริ่มทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลตั้งแต่ปี 2564 โดยนำดิจิทัลมาปรับปรุงกระบวนการทำงานตั้งแต่หน้าบ้านถึงหลังบ้าน นำข้อมูลที่ได้รับมาวิเคราะห์และตรวจสอบการทำงาน ส่วนที่เน้นหลักๆ คือ หน้าบ้านกับกลางบ้าน ปรับเปลี่ยนการจัดเก็บและส่งต่อข้อมูลเป็นรูปแบบดิจิตอลมากขึ้น ลดขั้นตอนการสั่งซื้อ และปรับรูปแบบการวางแผนจัดหาวัตถุดิบต่างๆ อย่างเป็นระบบ ส่วนในโรงงานได้นำ IIoTs หรือ Industrial Internet Of Things เข้ามาใช้ในบางกระบวนการทำงาน เช่น เซ็นเซอร์ควบคุมอุณหภูมิใช้ Big Data ตรวจจับข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การทำ Digital Transform ของบริษัท เป็นงานที่ต้องทำต่อเนื่อง เพราะต้องการทำให้สินค้าเหล็กซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป

คว้ารางวัล ESG100 ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
          ในปีนี้แปซิฟิกไพพ์ ได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 100 บริษัทที่โดดเด่นครบทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) จากการคัดเลือก 851 บริษัทจดทะเบียน ทั่วประเทศในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยสถาบันไทยพัฒน์ 
 

          การได้รับคัดเลือกครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของแปซิฟิกไพพ์ในการบูรณาการครบทุกมิติ ด้าน ESG เข้ากับกระบวนการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการมีผลประกอบการทางการเงินที่ดี อันจะนำไปสู่การสร้างผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างคุ้มค่า (Sustainable Investment) แก่นักลงทุน เดินหน้าสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพ ยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นเติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทยอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน 
          สำหรับความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนนี้ แปซิฟิกไพพ์ได้ดำเนินอย่างเป็นรูปธรรม โดยปี 2564 บริษัทฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานด้านความยั่งยืน เพื่อให้การดำเนินงานด้าน Corporate Sustainability ของบริษัทฯ เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ บรรลุผลสำเร็จตามนโยบายและวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืน ภายใต้แนวความคิด “Foundation for a sustainable future” เพื่อวางรากฐานขององค์กรสู่การดำเนินธุรกิจ อย่างยั่งยืนทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
          ทั้งนี้ การดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมนั้น สืบเนื่องจากสังคมโลกตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อน หลายประเทศบังคับใช้มาตรการคาร์บอนฟุตพริ้นต์ รวมทั้งประเทศไทยที่ตั้งเป้าหมายจะเป็นกลางทางคาร์บอนในปี ค.ศ. 2065-2070 โดยกำหนดนโยบาย และการปฏิบัติสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งในการปล่อยก๊าชเรือนกระจก ผ่านกิจกรรมการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทาน แปซิฟิกไพพ์ ในฐานะหนึ่งในห่วงโซ่อุตสาหกรรมจึงกำหนดแผนการลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรมเช่นกัน
 

Latest News & Event

Loading