แปซิฟิกไพพ์ ได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการ (CG Rating) ในระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” ต่อเนื่องปีที่ 4
บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAP ผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่ายท่อเหล็กรายใหญ่ของประเทศไทย ได้รับการประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการในระดับ "ดีเลิศ" (Excellent CG Scoring) ประจำปี 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการประเมิน จาก 750 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นพัฒนาการกำกับดูแลกิจการในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ควบคู่การดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
นางเอื้อมพร ปัญญาใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า "การที่ได้รับประเมิน CG Score ในระดับดีเลิศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง สะท้อนแนวทางการบริหารจัดการ และการดำเนินกิจการตามหลักบรรษัทภิบาลของบริษัทฯ ที่คณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ได้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติร่วมกันมาโดยตลอด ทั้งยังเสริมสร้างคุณค่าให้แก่การดำเนินธุรกิจ สร้างความมั่นใจ แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนต่อไป"
ตลอดระยะเวลา 50 ปี ในการดำเนินธุรกิจของแปซิฟิกไพพ์ มุ่งมั่นสร้างการเติบโตทางธุรกิจตามพันธกิจของบริษัทฯ ที่ว่า “Your Partner for Total Solutions” เพื่อตอบสนองความต้องการของคู่ค้า ลูกค้าอย่างครบวงจร พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน รวมทั้งให้ความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อม ร่วมพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ เติบโตเคียงคู่ไปกับสังคมไทยอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน
โครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2565 เป็นการสำรวจข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งในปีนี้มีบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจ จำนวน 750 บริษัท โดยมีคะแนน CGR เฉลี่ยอยู่ที่ 85% แบ่งเกณฑ์การประเมินออกเป็น 5 หมวดหลัก ได้แก่ สิทธิของผู้ถือหุ้น, การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน, การคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย, การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ซึ่งผลการประเมินดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นประโยชน์ต่อบริษัทจดทะเบียนในการพัฒนาการดำเนินธุรกิจ และประโยชน์ต่อผู้ลงทุนในการนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุน